Main Menu

Recent posts

#1

ประวัติ ซาอิด เบนราห์มา แนวรุกทีมชาติแอลจีเรียของ เวสต์แฮม
ทีมชาติ : แอลจีเรีย 21 นัด – 1 ประตู (2015-?)
สโมสรปัจจุบัน : เวสต์แฮม 136 นัด – 24 ประตู (2021-?)


ซาอิด เบนราห์มา (Saïd Benrahma) เกิดวันที่ 10 สิงหาคม 1995 ที่ประเทศแอลจีเรีย เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร NRB Bethioua (2004-2006) ต่อด้วย Balma SC (2010-2011) ตามด้วย Colomiers (2011-2013) จากนั้นย้ายสู่ นีซ แล้วได้ลงเล่นลีกเอิง 2013/14 จำนวน 5 นัด แล้วในฤดูกาล 2014/15 ได้เล่นลีกเอิงอีก 3 นัด ต่อด้วยฤดูกาล 2015/16 ได้เล่นลีกเอิงอีก 9 นัด ยิง 2 ประตู ก่อนจะถูกส่งให้ อองเชร์ ยืมตัวในฤดูกาลเดียวกัน ได้ลงสนาม 12 นัด ยิง 1 ประตู

ฤดูกาล 2017/18 ซาอิด เบนราห์มา ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ Châteauroux (ลีก 2) ยิง 12 ประตูจาก 34 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งจากผลงานดังกล่าว ส่งผลให้ เบรนท์ฟอร์ด (เดอะ แชมป์เปียนชิพ) เปิดตัวในฤดูกาล 2018/19 ด้วยการยิง 11 ประตูจาก 45 นัดรวมทุกรายการ ต่อด้วยการยิง 17 ประตูจาก 46 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งจากผลงานดังกล่าวทำให้ เวสต์แฮม (พรีเมียร์ลีก) ซื้อตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2020/21

ฤดูกาล 2020/21 ซาอิด เบนราห์มา เป็นตัวหลักของ เวสต์แฮม ลงเล่น 33 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู แล้วได้โอกาสมากขึ้นในฤดูกาล 2021/22 ลงเล่น 48 นัดรวมทุกรายการ ยิง 11 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิง 1 ประตูใส่ นิวคาสเซิล (ชนะ 4-2) และ 1 ประตูใส่ เลสเตอร์ (ชนะ 4-1) ในสองนัดแรกของซีซั่นนั้น นอกจากนั้นแล้วยังยิงอีก 1 ประตูใส่ แมนฯยู (แพ้ 1-2) และอีก 2 ประตูใส่ นอริช (ชนะ 4-0)

ฤดูกาล 2022/23 ซาอิด เบนราห์มา ฟอร์มดร็อปไปพอสมควรในช่วงต้นฤดูกาล กว่าจะยิงได้ต้องรอถึงพรีเมียร์ลีก นัดที่ 13 โดยยิง 1 ประตูในเกมกับ บอร์นมัธ (ชนะ 2-0) แล้ววันที่ 16 เมษายน 2022 เบนราห์มายิงอีก 1 ประตูใส่ อาร์เซน่อล (เสมอ 2-2) แล้วก็ยิงอีก 1 ประตู ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 35 ในเกมชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0

นอกจากนั้นแล้วยังยิงอีก 3 ประตูใน คอนเฟอเรนซ์ลีก 2022/23 มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ โดยมีส่วนร่วม 11 จาก 13 นัด หนึ่งในนั้นคือการอยู่ในสนาม 76 นาที ในเกมนัดชิงชนะเลิศที่ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1 โดยที่ เบนราห์มาเป็นคนยิงให้ทีมออกนำ 1-0
ฤดูกาล 2023/24 ซาอิด เบนราห์มา ยังอยู่กับ เวสต์แฮม ลงเล่น 3 นัด ยังยิงประตูไม่ได้

ในส่วนของการเล่นทีมชาติ ซาอิด เบนราห์มา ได้ค่อยได้รับโอกาสจาก ทีมชาติแอลจีเรีย ไม่มากนัก เปิดตัวในวันที่ 13 ตุลาคม 2015 ได้ลงเล่น 20 นาที ในเกมอุ่นเครื่องที่แพ้ เซเนกัล 0-1 จากนั้นต้องรอถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2021 ถึงจะยิงประตูแรกในทีมชาติได้ โดยยิง 1 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ ในบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่เอาชนะ Djibouti 4-0
ข้อมูลนับถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2023

#2

อีกหนึ่งตำนานของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยยิงประตูถล่มทลาย จนหลายทีมจ้างตากันเป็นมัน อยากจะได้เขามาร่วมทีมด้วย นั่นก็คือ ริยาด มาห์เรซ นักเตะชาวฝรั่งเศส เราจะมาทำความรู้จักกับเขาคนนี้ให้มากขึ้นกัน

ชื่อเต็ม ริยาด กะรีม มาห์เรซ
วันเกิด 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 (32 ปี)   
สถานที่เกิด ซาร์แซล ฝรั่งเศส
ทีมชาติ แอลจีเรีย
ส่วนสูง 1.79 ม. (5 ฟุต 10 1⁄2 นิ้ว)
ตำแหน่ง ปีก


เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ ริยาด มาห์เรซ
ชีวิตวัยเด็กของ มาห์เรซ เป็นเด็กที่ชื่นชอบฟุตบอลมาตั้งแต่ที่จำความได้เลย แต่อุปสรรคของเขาก็คือตัวเล็ก และบางเกินไป ทำให้หลายทีมในขณะนี้ไม่อยากจะได้มาร่วมทีมด้วย แต่กระนั้นเขาก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ยังฝันจะเล่นฟุตบอลต่อ โดยได้เล่นให้กับทีม อาแอ็ส ซาร์แซล จากนั้นก็ย้ายไปที่ทีม แก็งแปร์ ลีกในฝรั่งเศส ซึ่งไม่ดังมากนัก

หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปที่ เลออาฟร์ แต่อยู่ตำแหน่งผู้เล่นสำรองอยู่นั่นเกือบ 3 ปี ถึงจะได้ขยับไปเล่นชุดใหญ่ และเส้นทางฟุตบอลสายอาชีพของ มาห์เรซ ก็เริ่มตั้งแต่ปี 2013 หลังจากที่เล่นให้ทีมอยู่ 3 ปี ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตอนนั้นอยู่ดิวิชั่น 2 ได้ซื้อตัวไปในราคา 400,000 ปอนด์
หลังจากที่ย้ายมาที่ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาก็สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และยิ่งมีเพื่อนร่วมทีมที่เข้าขากันด้วย ทำให้ในฤดูกาล 2015-2016 เลสเตอร์ ซิตี้ ก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกจนได้ กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เหลือเชื่อสุดและในปีนั้น เจ้าตัวก็ได้รับรางวัลมากมายด้วย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ หลังจากที่พอทีมได้แชมป์แล้ว ก็มีทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมติดต่อมาขอซื้อตัว แต่ยังเล่นให้กับเลสเตอร์ถึงปี 2018 จากการลงเล่นทั้งหมด 158 นัด ยิงประตูได้ทั้งหมด 42 ประตู

และในฤดูกาลต่อมาปี 2018-2022 มะห์รัซ ก็ได้ย้ายไปที่เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่นี่เขาทำผลงานได้ดีมาก พาทีมคว้ามแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 3 ฤดูกาล ซึ่งถือว่าเยอะมาก และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากที่เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถึง 5 ปีลงเล่นไปทั้งหมด 145 นัด ยิงประตูได้ทั้งหมด 43 ประตู ในปี 2023 มาห์เรซ ก็ได้ย้ายทีมอีกครั้ง อัลอะฮ์ลี เป็นสโมสรในลีก ประเทศซาอุดิอาราเบีย

รางวัลส่วนตัว

•   ผู้เล่นชาวอัลจีเรียยอดเยี่ยม ในปี 2015,2016
•   ผู้เล่นยอดเยี่ยมของเลสเตอร์ ซิตี้ปี 2015-2016
•   Facebook FA Premier League Player of the Year: 2016
•   CAF African Footballer of the Year: 2016
•   CAF Team of the Year: 2016,2018
•   CAF Africa Cup of Nations Team of the Tournament: 2019
•   El Heddaf Arab Footballer of the Year: 2016
•   PFA Players' Player of the Year
#3

ประวัติ โรดรี้ กองกลางทีมชาติสเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ทีมชาติ : สเปน 43 นัด ยิง 1 ประตู
สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 211 นัด ยิง 18 ประตู

โรดรีโก้ เอร์นานเดซ (Rodrigo Hernández) เกิดวันที่ 22 มิถุนายน 1996 ที่ประเทศสเปน เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร ราโย่ มาฆาดาฮอนดา (2006-2007) ต่อด้วย แอตเลติโก้ มาดริด (2007-2013) แล้วย้ายมาอคาเดมี่ของ บีญาร์เรอัล (2013-2015)

ช่วงปี 2015 โรดรี้ มีโอกาสเล่นให้ บีญาร์เรอัล B แล้วได้ขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ บีญาร์เรอัล ในฤดูกาล 2015/16 มีส่วนร่วม 3 นัด เข้าสู่ฤดูกาล 2016/17 โรดรี้ ได้รับโอกาสมากขึ้น ได้ลงเล่นในลาลีก้า 23 นัด แล้วกลายเป็นตัวหลักของ บีญาร์เรอัล เต็มตัวในฤดูกาล 2017/18 ได้ลงเล่นมากถึง 47 นัดรวมทุกรายการ ยิง 1 ประตู พลาดลงเล่นลาลีก้า เพียงแค่นัดเดียว

ฤดูกาล 2018/19 โรดรี้ ย้ายไปอยู่กับ แอตเลติโก้ มาดริด ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร พร้อมสัญญา 5 ปี กลายเป็นตัวหลักของทีมทันที ยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลางร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์ ขนาบข้างด้วย ซาอูล ญีเกซ และ โกเก้ เป็นส่วนใหญ่ ได้ลงเล่น 47 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู

ฤดูกาล 2019/20 โรดรี้ ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 62 ล้านปอนด์ เปิดตัววันที่ 4 สิงหาคม ในเกมชาริตี้ ชิลด์ อยู่ในสนามครบ 120 นาที ในเกมชนะจุดโทษ ลิเวอร์พูล 6-5 หลังจากนั้นอีก 5 วัน โรดรี้ ลงเล่นพรีเมียร์ลีกนัดแรก ยืนเป็นมิดฟิลด์ร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์ และ แบร์นาโด้ ซิลวา อยู่ครบ 90 นาที ในเกมชนะ เวสต์แฮม 5-0 หลังจากนั้น โรดรี้ ยึดตัวหลักของทีมเรื่อยมา ลงสนาม 52 นัดรวมทุกรายการ ยิง 4 ประตู แบ่งเป็นการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 35 นัด และ UCL 8 นัด โดยฤดูกาลดังกล่าว ได้แมนฯ ซิตี้ ได้แค่แชมป์คาราบาว คัพ เท่านั้น

ฤดูกาล 2020/21 โรดรี้ ยังเป็นกำลังสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นเดิม ลงสนาม 52 นัดรวมทุกรายการ ยิง 4 ประตู แบ่งเป็นลงเล่นพรีเมียร์ลีก 35 นัด มีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ และลงเล่น UCL 10 นัด มีส่วนในการพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายให้ เชลซี 0-1 ซึ่ง โรดรี้ไม่ได้ลงเล่นในรอบรองฯ นัดที่ 2 กับนัดชิงชนะเลิศ

ฤดูกาล 2021/22 โรดรี้ ลงเล่นอีก 46 นัดรวมทุกรายการ ยิงได้ 7 ประตู เป็นการยิงได้มากที่สุดในอาชีพการค้าแข้ง จากนั้นในฤดูกาล 2022/23 โรดรี้ เป็นหนึ่งในกลจักรสำคัญที่ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ โดยเขาได้ลงเล่น 56 นัดรวมทุกรายการ ยิง 4 ประตู เป็นการลงเล่นต่อ 1 ฤดูกาล มากที่สุดในเส้นทางอาชีพ
 
ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) โรดรี้ ยังอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนาม 2 นัด (180 นาที) มี 1 สกอร์ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมชนะรวด 2 นัด
ข้อมูลนับถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2023
#4

ล่าสุด  TripAdvisor Travelers Choice เว็บไซต์ชื่อดังเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้เปิดหัวข้อว่าในประเทศญี่ปุ่น เมืองไหนดีที่สุด น่าไปท่องเที่ยวมากที่สุดในปี 2023 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลกเข้าไปโหวต โดยผลที่ออกมาจะเป็นเมืองไหน ที่ไหนบ้าง แล้วเพราะอะไรที่ทำให้เมืองนี้ต้องไป ทั้งหมดมีดังนี้

5 เมืองต้องไปเที่ยวเมื่อมาถึงญี่ปุ่นปี 2023

1. เมืองฟุกุโอกะ ชื่อภาษาอังกฤษ Fukuoka
เมืองนี้ถูกเรียกว่าเมืองหลวงของเกาะคิวชู ที่อยู่ในภาคใต้ของประเทศ การที่เมืองนี้อยู่ติดทะเลจึงมีชื่อเสียงอย่างมากในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ของกินที่อร่อยหลากหลาย ทั้งยังสดใหม่ฉ่ำๆ โดยเฉพาะอาหารทะเล แล้วยังเป็นเมืองที่อากาศดีไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ว่าในหรือนอกประเทศต่างชื่นชอบและหลงรักเมืองนี้ไม่น้อย

2. เมืองซัปโปโร ชื่อภาษาอังกฤษ Sapporo
เกาะฮอกไกโด มีเมืองหลวงที่อย่างซัปโปโร จึงเปรียบเหมือนจุดศูนย์กลางของที่นี่ โดยจุดเด่นของเมืองนี้คืออากาศที่หนาวเย็นทั้งปีไม่ว่าจะฤดูไหน ยิ่งหากเป็นฤดูหนาวจะติดลบอยู่เสมอๆ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบความหนาวเย็นเป็นพิเศษ แล้วยังมีกิจกรรมแนว EXTREEM ที่น่าสนใจรอต้อนรับอยู่มากมาย ที่นี่คือเมืองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

3. เมืองโอซาก้า ชื่อภาษาอังกฤษ Osaka
จะบอกว่านี่คือเมืองที่คนไทยนิยมไปมากที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับเมืองโอซาก้า เมืองนี่ขึ้นชื่อเรื่องความเจริญมากๆ รองมาจากเมืองหลวงของประเทศเลยทีเดียว มีความสะดวกสบายครบถ้วน ที่เที่ยวครบครันไม่มีขาด แล้วจุดเด่นอย่างป้ายกูลูโกะ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆของประเทศที่นี่ก็มีหมด เช่น Universal Studio หรือ Aquarium ที่ถูกยกให้ว่าที่ดีที่สุดของประเทศกันเลย

4. เมืองเกียวโต ชื่อภาษาอังกฤษ Kyoto
เมืองเกียวโตคือเมืองหลวงเก่าของประเทศ มีวัฒนธรรมที่สำคัญๆเก่าแก่ของประเทศเอาไว้มากมาย มีธรรมชาติรายล้อมเมืองที่สวยงาม ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวยังเมืองนี้จะต้องชื่นชอบแน่นอน แล้วเมืองนี้ยังรวมรวมทั้งวัดชื่อดังกับศาลเจ้าที่สวยงามเอาไว้เยอะมากๆ นี่คือเมืองที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

5. เมืองโตเกียว ชื่อภาษาอังกฤษ Tokyo
แล้วอันดับ 1 ก็คือเมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่างโตเกียวนั่นเอง ที่นี่ผสมผสานระหว่างเมืองยุคเก่ากับยุคทันสมัยได้อย่างลงตัว คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้หลายอย่าง พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่เติบโตไม่หยุด แหล่งท่องเที่ยวมีเยอะจนเลือกไม่ถูก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกๆคนที่ได้มาเยือน แล้วเมืองนี้จึงได้รับการโหวตให้เป็นเมืองน่าเที่ยวมากที่สุดของญี่ปุ่นไปอย่างสมราคา
#5

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เกาะล้าน จ.ชลบุรี

เกาะล้าน ชลบุรี เกาะที่เป็นไฮไลต์ของภาคตะวันออกอีกหนึ่งเกาะ ที่มีชื่อเสียงมากๆ เรื่องความสวยงามก็ไม่ได้ต่างจากทะเลภาคใต้เท่าไหร่เลย แถมยังใกล้กว่าอีกต่างหาก คนที่อยากจะหาที่เที่ยวใกล้ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับ ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะเหมาะไปกว่าเกาะล้าน ใช้เวลาไม่กี่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นจากกรุงเทพ แวะมาเติมพลังสักวันสองวัน แล้วกลับไปสู้ชีวิตต่อ

สำหรับเกาะล้านเป็นเกาะที่อยู่จังหวัดชลบุรี ห่างจากแผ่นดินประมาณ 7 กิโลเมตร ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปที่เกาะประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเรือโดยสารก็จะมีให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน เกาะล้าน เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ มีเนื้อที่ราว 3500 ไร่ แต่ถึงแม้ว่าเกาะล้านจะอยู่ใกล้เมืองมากๆ ธรรมชาติบนเกาะยังมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดอยู่ ทั้งน้ำทะเล ต้นไม้ และหาดทรายที่ขาวสะอาด วันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านมาดูรายละเอียดของเกาะล้านก่อน จะได้วางแผนไปเที่ยวได้ถูกต้อง

กิจกรรมที่น่าสนใจ 
เกาะล้าน เป็นที่เที่ยวที่เหมาะกับการทำกิจกรรมทุกชนิด มาที่นี่ที่เดียว คุณเลือกเที่ยวได้หลายแบบเลย ไม่ว่าจะเป็น

• เล่นน้ำ นั่งชิล มีหาดให้ลงเล่นน้ำหลายแห่งเลยบนเกาะล้านมากกว่า 10 หาด ได้แก่ หาดแสม,หาดเทียน,หากทองหลาง,หาดนวล เป็นต้น หรือถ้าใครไม่อยากเล่นน้ำ ก็มานั่งชิลริมหาด กินของอร่อยๆ ก็ได้
• กิจกรรมตื่นเต้นๆ หากคุณอยากเพิ่มความสนุกเพิ่มเติม มีเครื่องเล่นอะไรหลายอย่างให้เล่น ไม่ว่าจะเป็น การขี่เจ็ตสกี กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง นั่งบานานาโบ้ท เป็นต้น
• ขี่มอไซต์ชมวิว คนที่อยากจะเที่ยวแบบธรรมชาติทั่วทั้งเกาะ บนเกาะมีมอเตอร์ไซต์ให้เช่าขี่ด้วย จะได้เที่ยวรอบเกาะได้ง่ายขึ้น
• จุดชมวิว เป็นสถานที่ที่สวยที่สุด มองเห็นสุดลูกหูลูกตา เห็นทั้งวิวหาด กังหันลม บอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาได้สวยมาก
• ตกหมึก เป็นกิจกรรมช่วงกลางคืน ใครที่ยังไม่เคย แนะนำเลยว่าต้องลองมาตกดูสักครั้ง สนุกแน่นอน แถมยังเอาหมึกนั้นมาทำกินได้เลย

การเดินทาง
สามารถเดินทางไปได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถมอเตอร์ไซค์ และรถโดยสาร มาลงที่ท่าเรือ และเช่าที่จอดได้ ตั้งราคา 100 ถึง 200 บาท จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะ ซึ่งเรือจะออกทุกชั่วโมง

ที่พักและอาหาร
บนเกาะมีที่พักให้เลือกเยอะทีเดียว แบบราคาสบายกระเป๋าแค่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน คนที่ชอบเที่ยวราคาประหยัด บอกเลยว่าถูกใจเลยแหละ

ค่าบริการในการเข้าชม
ฟรี เสียแค่ค่าเดินทาง และค่าที่พัก

สถานที่ตั้งของ เกาะล้าน
เกาะล้าน ตั้งอยู่เลขที่ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
#6
นี่ก็ดีสายเเเอดเวนเจอร์  ;D
#7

Kawasaki W800 Street รุ่นใหม่ของคาวาซากิ ถือว่าเป็นวิวัฒนาการล่าสุดของรถในตระกูลที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 50 ปี เมื่อเทียบกับโมเดลเรโทร W800 มีรายละเอียดการอัพเดทชิ้นส่วนต่างๆมากมาย ถูกเติมเต็มความทันสมัยให้ออกมาเป็นรถจักรยานยนต์ที่ตอบสนองได้เป็นมิตรต่อผู้ขับขี่จากการควบคุมที่ง่ายและเสถียรภาพที่ดีในการใช้งาน ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น

Kawasaki W800 Street มาพร้อมกับมิติตัวรถที่น่าสนใจ ด้วยขนาดความกว้างอยู่ที่ 925 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,135 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,120 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,465 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 770 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 15 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 221 กิโลกรัม

Kawasaki W800 Street มาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ VERTICAL TWIN ที่มีขุมกำลังขนาด 773 ซีซี เเบบ Air-cooled, 4-stroke Vertical Twin มีระบบวาล์วเเบบ SOHC, 8 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 77.0 x 83.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 8.4 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 5 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ ดิจิตอล ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø34 mm x 2 โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า

โดยเฟรมของ Kawasaki W800 Street จะเป็นเฟรมท่อคู่ DOUBLE-CRADLE FRAME ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ø41 mm telescopic fork ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Twin shocks with spring preload adjustability ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single ø320 mm discs, Twin-piston ระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø270 mm disc, Twin-piston โดยที่ยางหน้ามีขนาด 100/90-18M/C 56H ส่วนยางหลังมีขนาด 130/80-18M/C 66H หน้าจอเเสดงผลการขับขี่เเบบคู่สไตล์คลาสสิค ส่วนไฟหน้า LED ดวงกลมขนาด ø170มิลลิเมตร อยู่ในกรอบเเบบคลาสสิค ให้แสงสีขาวที่สว่างชัดเจนและทัศนวิสัยอันเยี่ยมยอดสำหรับการขับขี่ในยามค่ำคืน ไฟหรี่รวมอยู่ในห้องของไฟสูงเพื่อให้ทุกส่วนของโคมส่องสว่างเหมือนกับโคมหน้าหลอดกลมสไตล์เรโทร รายละเอียดอย่างการเลือกใช้เลนส์นูนและกรอบโครเมียมช่วยเพิ่มความหรูหราและคลาสสิคให้กับตัวรถ โดยมีแฮนด์เดิ้ลบาร์และเบาะของ W800 Street มีตำแหน่งท่านั่งสไตล์วินเทจให้ความสบายในการใช้งานและสามารถรองรับขนาดตัวของผู้ขับขี่ได้เป็นวงกว้าง มาพร้อมท่วงท่าแบบสปอร์ตด้วยตัวที่โน้มไปด้านหน้ามากกว่า โดยตัวบอดี้มีเพียงสีเดียวคือสี METALLIC FLAT SPARK BLACK / METALLIC MATTE GRAPHITE GRAY (2019)

สนราคาขายของ Kawasaki W800 Street นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 399,000 บาท ถือว่าเป็นรถในตำนานที่น่าสนใจอีกรุ่น
#8

ในเเวดวงบิ๊กไบค์เเล้ว คาวาซากิ นินจา ถือว่าไม่เป็นสองรองใครเเละหนึ่งในรุ่นที่ย่าสนใจอย่าง Kawasaki Ninja H2 SX SE ก็เย้ายวนใจให้สัมผัสกับความเเรงฉบับนินจาเลยทีเดียว

Kawasaki Ninja H2 SX SE นั้นมีมิติตัวถังนั้นมีรายละเอียดคือ มีขนาดความกว้างอยู่ที่ 775 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,135 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,260 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,480 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 835 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 19 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 262 กิโลกรัม เรียกว่าเป็นโมเดลยอดนิยมของคาวาซากิเลยก็ว่าได้

ทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Kawasaki Ninja H2 SX SE นั้นต้องถือว่าเเรงไม่เบาเพราะมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 16 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 76 x 55 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.2 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ  Wet multi-disc, manual โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed, return, Dog-ring โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø40 mm x 4 with dual injection โดยมีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric นับว่าบรรจุเทคโนโลยีล้ำสมัยหลายรายการเข้ามาในเครื่องยนต์สมรรถนะสูง

Kawasaki Ninja H2 SX SE มาพร้อมกับเฟรมที่มีความเเข็งเเกร่งเพราะผลิตด้วยวัสดุชั้นยอดเเละเทคโนโลยีชั้นสูง โดยมีระบบกันสะเทือนหน้า เป็นเเบบ ø43 mm inverted fork with KECS-controlled rebound and compression damping, manual spring preload adjustability, and top-out springs ส่วนระบบกันสะเทือนหลังนั้นจะเป็นเเบบ New Uni Trak, BFRC lite gas-charged shock with piggyback reservoir, KECS-controlled compression and rebound damping, and electronically adjustable spring preload  ในขณะที่ระบบห้ามล้อหน้าจะเป็นเเบบ Dual semi-floating ø320 mm discs , Caliper - Dual radial-mount, Brembo Stylema monobloc, opposed 4-piston ส่วนระบบห้ามล้อหลังเป็นเเบบ Single ø250 mm disc , Caliper - 2-piston โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W) ส่วนขนาดยางหลัง 190/55ZR17M/C (75W) ส่วนทางด้านมาตราวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มจับคู่มากับหน้าจอ LCD สี TFT full colour คุณภาพสูงซึ่งสามารถปรับกราฟฟิคในการแสดงผลข้อมูลตามโหมดการแสดงผลที่มีให้เลือกมากถึงสี่แบบ โคมไฟหน้าดูสปอร์ตเร้าใจเเบบ LED โดยตัวบอดี้มีเพียงสี EMERALD BLAZED GREEN เท่านั้น เเต่ก็เป็นสีเอกลักษณ์ของคาวาซากิ นินจา นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์เสริมเข้าไปให้ได้เลือกกัน ทั้งกล่องเก็บสัมภาระ หรือจะเป็นเบาะ หรือ Windshield

ทางด้านราคาขายของ Kawasaki Ninja H2 SX SE นั้นมีการประกาศราคาขายในประเทศไทยออกมาที่ 1,090,000 บาท ถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมอุปกรณ์เกรดสูงและอัตราเร่งสุด เร้าใจทุกการขับขี่ในทุกเส้นทาง
#9

Ducati Scrambler เป็นรถจักรยานยนต์ในอีกตระกูลของดูคาติที่มีจุดเด่นทางด้านราคา เเละเข้ามาทำตลาดในประเทศมาพักใหญ่เเละเรียกความสนใจเเละยอดขายได้พอสมควร เเละหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจอย่าง New Ducati Scrambler Iconก็เป็น Café Racer เท่ห์ ทรงสมรรถนะ ที่ไม่ควรพลาดมาลองสัมผัสความเเรง

New Ducati Scrambler Icon มาพร้อมกับเครื่องยนต์L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 803 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 88 x 66 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 73 เเรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 65.2 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, 50 mm throttle body with Ride-by-Wire system ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น Stainless steel muffler with catalytic converter and 2 lambda probes, aluminium tail pipes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ 1=32/13 2=30/18 3=28/21 4=26/23 5=22/22 6=24/26 อัตรา Straight cut gears, Ratio 1.85:1 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain, front spocket 15, rear sprocket 46 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch ถือว่าเเรงเลยทีเดียว

New Ducati Scrambler Icon มีเฟรมเเบบ Tubular steel Trellis frame ที่ได้รับการออกเเบบใหม่มาเป็นอย่างดี มีความเเข็งเเกร่งเเละทนทานสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Upside down Kayaba 41 mm fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Kayaba rear shock, pre-load adjustable ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ Ø330 mm disc, radial 4-piston calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ Light alloy 3.00" x 18" ล้อหลังเป็นเเบบ Light alloy 5.50" x 17"  โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 110/80 R18 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 180/55 R17 โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาท แฮนด์จับยาว พร้อมกระจกเมืองหลังทรงกลมที่ปลายทั้งสองด้าน ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียเดี่ยวดูดุดันจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ TFT colour โดยเป็นทรงกลมผสมกับเหลี่ยมรูปเเบบใหม่ ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มี 3 เฉดสีมาหใเลือกด้วยกันคือ สีเหลือง 62 Yellow, สีดำ Thrilling Black เเละสีเเดง Ducati Red

สนราคาของ New Ducati Scrambler Icon นั้นต้องสอบถามกับทางดูคาติ ไทยเเลนด์อีกครั้งหนึ่ง
#10

สำหรับ Ducati Hypermotard 950 SP ถือว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล Hypermotard ของดูคาติที่มีความร้อนเเรงน่าขับขี่ทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดุดันเเละดีไซน์ที่เร้าใจชวนให้น่าสัมผัสอย่างยิ่ง

โครงสร้างตัวถังของ Ducati Hypermotard 950 SP ถือว่าออกเเบบมาได้อย่างลงตัวด้วยขนาดน้ำหนักรถเปล่าที่ 176 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 890 มิลลิเมตร ระยะส่วนโค้งของขาด้านในอยู่ที่ 1,980 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,493 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 25 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 104 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร สามารถโดยสารได้ 2 คน เเบบ ดับเบิ้ลซีท ถือว่าสมส่วน

Ducati Hypermotard 950 SP มีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เเรงด้วยการพกพาเครื่องยนต์เเบบ Testastretta 11°, L-Twin cylinder, 4 valve per cylinder, Desmodromic, liquid cooled, magnesium head covers ที่มีขุมพลังขนาด 937 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 94 x 67.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 13.3 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 114 เเรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 96 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection system, Ø 53 mm throttle bodies with full Ride by Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Double under-tail aluminum muffler; catalytic converter and two lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, Ratio 1.54:1 มีอัตราที่ 1=37/15 2=30/17 3=28/20 4=26/22 5=24/23 6=23/24 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Chain; Front sprocket 15; Rear sprocket 43 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Slipper and self-servo wet multiplate clutch, hydraulic control ถือว่าเป็นสเปกเครื่องยนต์ที่เเรงอีกรุ่นของดูคาติ

เฟรมของ Ducati Hypermotard 950 SP ก็ได้รับการออกเเบบมาใหม่ให้เป็นเเบบ steel trellis frame with variable-section tubes ที่มีความสวยงามเเละเเข็งเเกร่งเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็น Ohlins fully adjustable, upside-down Ø 48 mm ส่วนระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Progressive linkage with fully adjustable Öhlins monoshock. Aluminium single-sided swingarm ในส่วนของระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเเบบ 2 x 320 mm semi-floating aluminum flange discs, radially mounted Monobloc Brembo callipers, 4-piston 2-pad, radial pump with adjustable lever, with Bosch Cornering ABS ล้อหน้าเเละหลังมีขนาด 185 mm (7.3 in) - 175 mm (6.9 in) โดยล้อหลังจะเป็นเเบบ W shaped 3-spoke Marchesini forged light alloy 5.5" x 17"  ในขณะที่ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Diablo Supercorsa SP v3, 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III, 180/55 ZR17 หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 3.5 นิ้วเเบบ TFT colour display and dedicated warning light display ระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า-ท้าย เเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด โดยไฟเลี้ยวอยู่ที่ที่กันเกระเเทกตรงเเฮนด์ พร้อมท่อไอเสียคู่ ตัวบอดี้มีสีเดียว เป็นสีเเบบทูโทน SP Livery ที่สวยงามเเละเร้าใจอย่างยิ่ง

สำหรับราคาขาย Ducati Hypermotard 950 SP นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 695,000 บาท นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง